วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Trade Hub (E-Commerce Infrastructure Provider)



Trade Hub (E-Commerce Infrastructure Provider)

บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุด ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต ได้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร และผู้ประกอบการในประเทศที่ให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่ การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถขยายโอกาสทางการค้า และสู่กับตลาดโลกได้


บริการพื้นฐานของ Trade Hub

- Online Payment
เป็นระบบการรับชำระเงินจากการซื้อสินค้า และบริการใดๆ ผ่านเว็บไซต์ของผู้ขายมาในรูปแบบ Real Time Payment กล่าวคือ เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ซื้อ โดยชำระผ่านบัตรเครดิต (Credit Card) หรือการหักบัญชีออมทรัพย์ (Direct Debit) หากการชำระผ่านระบบ Intelligent Payment Gateway นี้ได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว เงินค่าสินค้า และบริการนั้นจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ขายในทันที (Merchant Account)

- Shipping
ในการขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นสิ่งที่ผู้ขายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยนั่นคือการจัดส่งสินค้า โดย
Trade Hub ได้เตรียมพร้อมให้บริการด้วยระบบ Intelligent Shipping System ทำให้เรื่องการจัดส่งสินค้าเป็นเรื่องง่าย กล่าวคือเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าจากต่างแดนและมีการชำระค่าสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วระบบจะแจ้งไปยังบริษัทรับส่งพัสดุที่ท่านเลือกบริการไว้ ให้มารับสินค้าถึงร้านค้าของท่านในวันทำการถัดไปเพื่อดำเนินการจัดส่ง และด้วยระบบการตรวจสอบการจัดส่ง(Tracking)ของบริษัทรับส่งพัสดุอัตโนมัติ คุณสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาว่าขณะนี้สินค้าที่ท่านจัดส่งไปนั้นถึงผู้รับหรือยัง หรืออยู่ระหว่างการจัดส่งช่วงใด



ระบบรักษาความปลอดภัย

นอกจากระบบ Payment Gateway ที่ได้ถูกออกแบบและพัฒนามาโดยที่ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลหมายเลข
รหัสบัตรเครดิตของผู้ซื้อแล้ว ยังได้ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยอื่นๆ อาทิเช่น
Firewall การป้องกันการบุกรุกทางระบบสื่อสาร
Secure Socket Layer (SSL128 bit)
Encryption การเข้ารหัสข้อมูลระหว่างร้านค้ากับ Trade Hub และการเข้ารหัสข้อมูลระหว่าง Trade Hub กับธนาคาร รวมทั้งเชื่อมต่อในลักษณะ Private Network (เครือข่ายเฉพาะ)



การเชื่อมต่อกับธนาคาร

ปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตประเทศไทย ได้ทำการเชื่อมต่อ กับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ ดังนี้
1. ธนาคารเอเชีย
2. ธนาคารไทยพาณิชย์
3. ธนาคารกสิกรไทย
4. ธนาคารกรุงไทย
5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารที่อยู่ระหว่างเชื่อมต่อ
1. ธนาคารกรุงเทพ
ระบบชำระเงินที่รองรับ
1. บัตรเครดิต VISA, Mastercard, JCB
2. ผ่านบัญชีออมทรัพย์ Internet Banking, Direct Debit, Virtual Credit Card
- หักบัญชีออมทรัพย์จากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Easy)
- หักบัญชีออมทรัพย์จากธนาคารเอเชีย (Asia Cyber Banking)
- หักบัญชีออมทรัพย์จากธนาคารกสิกรไทย (TFB E-Web shopping)
- หักบัญชีออมทรัพย์จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri Online)


ระบบจัดการขนส่ง

การจัดส่งภายในประเทศ
- จัดส่งโดย พัสดุไปรษณีย์ธรรมดา
- จัดส่งโดย EMS
การจัดส่งระหว่างประเทศ
- จัดส่งโดยบริษัทขนส่ง TNT



ประโยชน์ที่ร้านค้าได้รับจาก Trade Hub


1. ได้รับระบบที่รองรับการรับบัตรเครดิตทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยร้านค้าสามารถรับบัตรเครดิตได้ทุกธนาคารที่เปิดให้บริการ และร้านค้าเลือกเปิดบัญชี
2. รองรับหลายรูปแบบวิธีการชำระเงิน ทั้งบัตรเครดิต และการหักบัญชีออมทรัพย์
3. สามารถลดต้นทุนการประกอบธุรกิจไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานมาดูแลระบบ Payment Gateway
4. ระบบทั้งหมดตั้งอยู่บนเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้บริการได้เป็นจำนวนมาก
5. ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น Firewall , SSL Digital Signature (128 Bits) , Encryption Module
6. มีระบบตรวจสอบสถานะการทำรายการของธนาคารตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถส่งรายการไปยังธนาคารรองได้ทันที เมื่อธนาคารหลักไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนั้น
7. สามารถดูรายการการทำรายการผ่านระบบของ Trade Hub ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
8. พร้อมเชื่อมต่อและใช้บริการขนส่งสินค้า จากบริษัท ขนส่งชั้นนำ ให้บริการขนส่งทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ และการคำนวณค่าขนส่งอัตโนมัติ ถูกต้อง แม่นยำ

ค่าธรรมเนียมการใช้บริการ Trade Hub


- 1 % สำหรับการชำระผ่านบัตรเครดิต
- 5 บาท ต่อรายการ สำหรับการชำระผ่านการหักบัญชีออมทรัพย์ จากทุกธนาคาร

** ค่าใช้จ่ายทั้ง 2 ส่วนจะชำระต่อเมื่อมีการจำหน่ายสินค้าแล้วเท่านั้น
** ค่าบริการ รายเดือนสำหรับร้านค้าที่เลือกเปิดบัญชี Merchant Account กับธนาคารกรุงไทย ปีละ 4,500 บาท

จะใช้บริการ Trade Hub ได้อย่างไร


คุณสมบัติร้านค้าที่จะใช้บริการ

- เปิดบัญชีธนาคารประเภท Merchant Account สำหรับ E-Commerce กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ Trade Hub
- มีสำนักงานหรือร้านค้าที่สามารถติดต่อได้จริงและดำเนินธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อประเทศไทยเป็นสำคัญ
- มีบุคลากรที่มีความรู้พื้นฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ และการใช้บริการอินเทอร์เน็ต
- มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตของอินเทอร์เน็ตประเทศไทยได้
- มีเว็บไซต์ที่มีองค์ประกอบหลักของ Electronic Commerce ดังนี้เพื่อสามารถจะเชื่อมต่อกับ Trade Hub
• Store Front (หน้าร้าน)
• Electronic Catalog (แคทตาล็อกสินค้าบนอินเทอร์เน็ต)
• Shopping Cart (ระบบตะกร้า หรือรถเข็นสำหรับสั่งซื้อสินค้า)
หมายเหตุ : บริษัทฯ มีบริการจัดทำเว็บไซต์ในส่วนของ Electronic Commerce



ขบวนการของ Payment Process


เอกสารอ้างอิง


http://thai.com/jointhai_com/choice4.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น